รีวิวมะเร็งและเนื้องอก
พอลลิติน รีวิว คุณน้อย มัยวี ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ขนาดเท่าไข่ไก่สองฟอง
คุณน้อย มัยวี กุลธิติธานนท์ ได้ประสบปัญหาพบก้อนเนื้อที่เต้านม จึงได้ไปตรวจ พบว่าตัวเองนั้นได้เป็นมะเร็งเต้านมระยะ 3 และกำลังลุกลามเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง ซึ่งเป็นชนิดร้ายแรง จึงได้มองหาธรรมชาติในการดูแลเสริมเพิ่มเติม และได้พบกับ พอลลิติน (Pollitin) จึงจัดสินใจทานตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.62 อย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยการตรวจเข้ารับการรักษาตามปกติของแพทย์ พบว่าเดือน ก.พ. 63 ก้อนเนื้อยุบลงเหลือเท่าเม็ดข้าวโพด
คุณน้อยมัยวี ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะ 3 ทานพอลลิตินจนเป็นปกติ
มะเร็งเต้านม ภัยร้ายเงียบ ดูแลได้ถ้าแก้ที่ต้นเหตุด้วย “พอลลิติน”
หลายๆ ท่านเองอาจกำลังประสบปัญหากับมะเร็งเต้านมอยู่ เหมือนคุณน้อย และกำลังมองหาทางออกว่าเรานั้นจะไปทางไหนดี จะไปคีโมฉายแสง ผ่าตัดดีไหม หรือจะใช้ธรรมชาติดี หรือว่าจะร่วมกันระหว่างการรักษาแผนปัจจุบันและการใช้ธรรมชาติ วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลจากประสบการของคุณน้อย มาให้ทุกท่านเป็นกรณีศึกษาไปดูกัน
สารบัญความรู้ “พอลลิตินรีวิว”
ความรู้สึกแรกเมื่อตรวจพบมะเร็ง
วันนี้หลายท่านเองก็อาจจะกำลังประสบปัญหาเดียวกันกับคุณน้อย เมื่อตรวจพบมะเร็งเต้านม ผมเข้าใจครับว่าไม่มีใครแน่นอนที่จะมาสบายใจ เพราะภาพที่เราเห็นติดตานั้น คือมะเร็งเต้านม เป็นแล้ว “ต้องตาย”
เลยมีความกังวลและจิตตกไปเลย ก็มันแน่หละใครๆ ก็เป็น แต่วันนี้ ผมจะเอาประสบการณ์ดีๆ ของพี่น้อย ซึ่งผมเองได้มีโอกาสดูแลเธอมาจนเธอนั้น กลับมามีชีวิตปกติได้อีกครั้ง
ครั้งแรกที่พี่น้อยนอนคลำเจอก้อนเนื้อร้าย และไปตรวจพบมะเร็งเต้านมในระยะที่ 3 มีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือแล้วนั้น ยังพบอีกว่ามะเร็งที่เป็นนั้น เป็นชนิดที่ร้ายแรง จิตใจตอนนั้นเธอบอกว่ามัน แฟบลงไปเลย เคล้งไปเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร
แต่แน่นอนคนยังมีความหวัง และเธอได้เจอเรื่องราวของคนที่เป็นมะเร็งเต้านมมาอยู่บ้าง และคนที่รอดและยังมีชีวิตอยู่ที่เธอเจอนั้นเขาได้ใช้ พอลลิติน (pollitin) ในการดูแลรักษาสุขภาพ และเขาก็ยังมีชีวิตแข็งแรง
ตอนแรกก็กะว่าจะใช้ธรรมชาติรักษาอย่างเดียวไม่รักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะกลัวการให้คีโม และฉายแสงเพราะคนที่ไปทำนั้นไม่นานก็กลับมาเป็นอีก ไม่ก็เสียชีวิตไปเร็วมากยิ่งขึ้น แต่แน่นอนทุกคนไม่ได้อยุ่ตัวคนเดียว ลูกๆ และครอบครัวขอให้เธอเข้ารับการรักษาแบบปกติ แต่จะหาอะไรมาทานเสริมตรงนั้นไม่ว่า
เธอจริงเริ่มได้เข้าสู่กระบวนการรักษาตามปกติ และได้มีปรึกษาการทานพอลลิตินกับ โค้ชไอซ์ และได้ตัดสินใจทาน พอลลิติน (ซึ่งชื่อเดิมตอนทานนั้นยังเรียกว่า เซอร์นิติน )
หลายๆ ท่านคงอยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่า เธอทานพอลลิติน อะไรบ้างและกินอย่างไร เดี๋ยวเราไปดูกัน แต่ก่อนอื่นๆ เรามารู้จักมะเร็งเต้านมกันให้มากพอก่อนจะดีกว่านะ ว่าตอนนี้เรา หรือคนที่รักนั้นกำลังเจออยู่กับอะไร
รู้จักมะเร็งเต้านม
วันนี้ก่อนที่เราจะเริ่มดูแล ผมแนะนำว่า เรามาทบทวนเรื่องมะเร็งเต้านมกันก่อนนิดนึงนะครับ ซึ่งเป็นมะเร็งอันดับ 1 ของผู้หญิงเลยก็ว่าได้ ซึ่งส่วนมาในไทยจะพบมะเร็งประมาณ 40 คน ในสตรีวัยเจริญพันธุ 100,000 คน
มะเร็งเต้านมเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ที่อยู่ภายในท่อน้ำนม หรือต่อมน้ำนม เซลล์เหล่านี้จะแบ่งตัวผิดปกติไม่สามารถควบคุมได้ อาจแพร่กระจายไปต่อมน้ำเหลือง หรืออวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด กระดูก ตับ เป็นต้น การตรวจเจอในระยะเริ่มต้นจะมีโอกาสประสบความสำเร็จในการรักษาสูงมากกว่า
ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านม
ในผู้หญิงที่อายุมากกว่า 40 ปี จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
ผู้ป่วยที่เกิดมะเร็งเต้านมขึ้นหนึ่งแล้วนั้นจะมีความเสี่ยงเพิ่ม 3-4 เท่าในกรที่จะเกิดก้อนมะเร็งอีกข้าง
เนื่องจากการเป็นมะเร็งรังไข่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสฮอร์โมน จึงเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม
ในครอบครัวที่เป็นมะเร็งเต้านม จะพบความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นมากกว่าคนอื่นๆ
คนที่มีประจำเดือนครั้งแรกก่อนอายุ 12 ปี หรือหมดประจำเดือนช้ากว่าอายุ 55 ปี ร่างกายของผู้หญิงจะมีช่วงเวลาสัมผัสกับฮอร์โมนเพศ เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนมากขึ้นทำให้มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น
ผู้หญิงที่ใช้ยาคุมกำเนิดจะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านมเล็กน้อยเมื่อเที่ยบกับคนที่ไม่ได้ใช้ ความเสี่ยงที่ว่าที่จะหมดไปหากหยุดใช้ยาเกิน 10 ปี
ผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม อาจจะไม่มีอาการองมะเร็งเลย และมะเร็งเต้านมส่วนใหญ่จะไม่เจ็บหรือปวด มีเพียงร้อยละ 10 ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ที่มาพบแพทย์ด้วยอาการปวดเต้านม ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการดังต่อไปนี้ เพื่อตรวจว่ามีความเสี่ยงเป็นมะเร็งหรือไม่ เราจะได้ รีบหาวิธีดูแลกันต่อไปนะครับ
- มีก้อนหนาๆ ในเต้านมหรือใต้แขน
- บริเวณหัวนมบุ๋ม หรือเต้านมมีรูปร่างผิดไปจากเดิม
- มีน้ำเหลืองหรือน้ำเลือดไหลออกจากหัวนมหรือบริเวณเต้านม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผลบริเวณหัวนมและรอบหัวนม
- เต้านมมีผื่นแดง ผื่นคล้ายผิวส้ม
- อาการปวดบริเวณเต้านม
- ไม่มีอาการผิดปกติ แต่พบรอยจากการตรวจแมมโมแกรมหรืออัลตราซาวด์ที่เต้านม
ผู้หญิงร้อยละ 80 ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมจะมาด้วยอาการที่พบก้อนบริเวณเต้านม และส่วนใหญ่จะตรวจพบโดยการคลำด้วยตัวเอง การตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอทำให้รู้ว่าลักษณะของเต้านมปกติเป็นอย่างไร และสามารถสังเกตได้หากเริ่มมีความผิดปกติขึ้น จะทำให้แพทย์สามารถรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกซึ่งจะทำให้การรักษาได้ผลสูงขึ้น
การรักษามะเร็งเต้านมที่ได้ผลดีและเป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบันนี้
- รักษาโดยการผ่าตัด
- รักษาโดยการฉายแสง (รังสีรักษา)
- รักษาโดยยาเคมีบำบัด ให้คีโม
- รักษาโดยใช้ฮอร์โมน
- รักษาโดยยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง
- ดูแลโดยวิธีธรรมชาติ เพิ่มเติมความสมบูรณ์ร่างกายด้วย พอลลิติน
การรักษาด้วยธรรมชาติบำบัด
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่เกิดเป็นมะเร็งแล้ว เช่น คุณน้อย ได้ตัดสินใจใช้วิธีธรรมชาติร่วมกับการรักษาควบคู่แผนปัจจุบัน จนทำให้เธอนั้น ประสบความสำเร็จ และกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง
ซึ่งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์นั้น มีแพทย์ดังๆ ทั่วโลก หลายๆประเทศ ได้ใช้วิธีการดูแลด้วยอาหารที่เหมาะสม ร่างกายก็จะกลับมาแข็งแรง และสร้างภูมิคุ้มกันไปต่อสู้กับมะเร็งได้
แพทย์แม็กซ์ เกอร์สัน ผู้คิดค้นวิธีการรักษาโรคมะเร็งด้วยโภชนบำบัด ที่ถูกการผ่านพิสูจน์มาแล้ว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้เป็นมะเร็งร้าย โดยการรักษาแบบเกอร์สันนั้น จะมุ่งเน้นไปในเรื่องการใช้โภชนาการ ดูแลสุขภาพ เลี่ยงสารเคมี และเพิ่มเติมสารอาหารและเอ็นไซม์ที่จำเป็นให้กับร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันและปรับสมดุลในการต่อสู้กับมะเร็งร้ายและเป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุ และมีโอกาสหายขาดได้
นายแพทย์ทะกะโฮะ วะตะโย ศัลย์แพทย์ทางเดินอาหารผู้มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น เขามุ่งมั่นเป็นแพทย์รักษาโรคมะเร็ง จนทำให้เขาค้นพบเรื่องการใช้อาหาร ให้เหมาะสมกับผู้ป่วยทำให้ผู้ป่วยกำจัดมะเร็งได้อย่างน่าอัศจรรย์ อัตรารอดตายสูงถึง 66.3%
นายแพทย์ วิลเลียม โอวอร์ค เฮ ได้ตั้งข้อสังเกตไว้ในวารสารทางการแพทย์ Cancer ฉบับเดือนกรกฏาคม ค.ศ.1927 ถึงสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งว่า มะเร็งอาจมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมในการบริโภคที่ไม่เป็นธรรมชาติ
มนุษย์กินอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูป จนขาดสารอาหารธรรมชาติจำเป็นที่ร่างกายควรจะได้รับ จนเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็งร้าย ถ้าเราดูแลการทานอาหารได้ดี จะช่วยลดการเกิดและกลายเป็นมะเร็งได้อย่างมาก (ซึ่งได้มีการนำมาเผยแผ่ในหนังสือ สุดยอดอาหารต้านมะเร็ง)
ซึ่งในแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและดังๆ ทั่วโลก นั้นได้กล่าวไว้เหมือนกันอย่างหนึ่งคือเรื่องของอาหาร ร่างกายมนุษย์ต้องการสารอาหารที่จำเป็น ในการซ่อมแซมร่างกาย พอลลิติน ( pollitin ) จึ่งเป็นอีกหนึ่งทางลัด
ที่เราเองอาจจะไม่ต้องไปใช้ความพยายามหาสารอาหารเหล่านั้นด้วยวิธีที่ยุ่งยาก ซึ่ง พอลลิติน เป็นสารอาหารที่ มีทั้งวิตามี แร่ธาตุ เอ็มไซม์ ที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูและต้านมะเร็ง และกรดอมิโน สารตั้งต้น DNA RNA ที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
และนอกจากนี้ เราลดการรับสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย ลดการทานอาหารแปรรูป ทานของปรุงสด จากธรรมชาติ จะทำให้เราลดความเสี่ยงการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งร้ายได้เป็นอย่างดี
ใช้พอลลิตินตัวไหนบ้างดูแล
ถึงเวลานี้ท่านเองคงอยากจะรู้แล้วใช่ไหมครับว่าคุณน้อย ใช้พอลลิติน (pollitin) ตัวไหนในการดูแลบ้าง เดี๋ยววันนี้ผมจะเผย พอลลิติน ที่ช่วยชีวิตผู้หญิงคนนี้กันพร้อมเหตุและผล ว่าเธอนั้นทานอย่างไรกันบ้าง เผื่อทุกๆ ต้องการนำไปดูแลกับตัวเองกัน
พอลลิตัน (polliton) ตัวนี้ทำหน้าที่เข้าไปช่วยลดการอักเสบภายในเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยเพิ่มกระบวนการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ บำรุงไต
พอลลิทอล (pollital) ตัวนี้เข้าไปช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดเซลล์มะเร็ง ป้องกันการลุกลาม ฟื้นฟูเซลล์ ลดอาการผมร่วง และลดผลข้างเคียงจากการให้คีโม บำรุงผิวพรรณ และนี่คือสิ่งนึงที่ทำให้ พี่น้อยสวยและดูดีแม้ขณะให้คีโม
วีสกราส (Weatgrass) ตัวนี้เข้าไปช่วยการขับสารพิษในร่างกาย ช่วยบำรุงเลือด ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยระบบขับถ่าย
พอลลิทรักซ์ (Pollitrux) ตัวนี้ช่วยดูแลระบบทางเดินอาหาร เพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ช่วยการขับถ่าย ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร และขับสารพิษได้เป็นอย่างดี
พอลลิแทป (Pollitab) ตัวนี้จะช่วยดูแลในเรื่องของการเพิ่มออกซิเจนในเลือด ระบบการย่อย ระบบสมอง ลดผลข้างเคียงจากคีโม
พอลเลน พลัส (Pollen Plus) ตัวนี้จะช่วยเสริมประสิทธิ์ภาพร่างกาย ลดการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน ลดก้อนเนื้อ เนื้องอก ได้เป็นอย่างดี
มิกซ์ พอลเลน (Mixed Pollen) ตัวนี้จะช่วยในเรื่องของการนอนหลับ จะช่วยให้หลับลึกหลับสบาย เมื่อร่างกายหลับสนิท ร่างกายจะผลิตโกรสฮอร์โมน เข้ามาช่วยในการซ่อมแซมร่างกายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังบำรุงกระดูก
พอลลินอล (Pollinal) ตัวนี้เป็นสารอาหาร บำรุงเลือดบำรุงร่างกาย ปรับสมดุลให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายปกติ ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งเต้านมได้เป็นอย่างดี
หลายท่านเริ่ม โอโห! ใช่ไหมละ ว่าทำไมทานเยอะจัง ครับแต่นี้ คือ การดูแลสุขภาพของคุณน้อย จริงๆ ที่เธอเลือกในการดูแลแบบครบทุกระบบ และทานอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ทุกตัวเมื่อทานไปแล้ว เขาจะไปทำหน้าที่ร่วมกัน ไปช่วยเพิ่มเติมสารอาหารเข้าสู่ร่างกายในแต่ละระบบ ทำให้การทำงานในระบบต่างๆ ทำงานได้ดีขึ้น เมื่อกระบวนการทำงานของร่างกายดีขึ้น การขับสารพิษ การสร้างภูมิคุ้มกันก็จะดีตามขึ้นมาเอง
และนี้เป็นเหตุให้ร่างกาย เรานั้นยังสมบูรณ์และแข็งแรงต่างจากคนที่เข้ากระบวนการรักษา แล้วไม่ได้หาอะไรมาเพิ่มเติมป้องกันและดูแลร่างกายเลย
คอร์สสำหรับฟื้นฟูมะเร็งเต้านม
คอร์สพอลลิตินฟื้นฟูมะเร็งเร่งด่วนเห็นผลไว
คอร์สนี้ประกอบด้วยพอลลิติน 8 ชนิด ซึ่งดูแลระบบต่างๆของร่างกาย แบบครบองค์รวม เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ฟื้นฟูคนที่ทานอาหารได้น้อย อ่อนแรง เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการฟื้่นฟูร่างอย่างรวดเร็ว หรือเป็นระยะลุกลาม
วิธีทาน ทานทุกตัวอย่างละ 1 เช้า และ เย็น ก่อนอาหาร ประมาณ 30 นาที
คอร์สพอลลิตินฟื้นฟู มะเร็งระยะเริ่มต้น
คอร์สนี้ประกอบด้วยพอลลิติน 3 ชนิด ทำหน้าที่ฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ป้องกันการลุกลาม และลดการอักเสบ เซลล์มะเร็ง ลดอาการแพ้จากคีโม ฉายแสง
วิธีทาน ทานทุกตัวอย่างละ 1 เช้า และ เย็น ก่อนอาหาร ประมาณ 30 นาที
วิธีการทานพอลลิตินให้ได้ผล
ตอนนี้มาถึงขั้นตอนการ ทานละ เราจะเริ่มทานอย่างไรให้ได้ผล มาดูวิธีการทานกันนะครับ
สำหรับผู้ที่เริ่มทาน เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพได้ดีก่อน ควรทานพอลลิติน (Pollitin) อย่างละ 1 เม็ด เช้า และเย็น ก่อนอาหาร อย่างน้อยสัก 30 นาทีจะมีประโยชน์สูงสุด
และตามด้วยน้ำประมาณ 1 แก้ว ( ทานมากว่า 1 แก้วได้ก็จะดีมาก เพราะร่างกายเราต้องการใช้น้ำในการดูดซึมสารอาหารและกระบวนการทำงานของร่างกายอื่นๆ ) ทานแบบนี้ไปสักประมาณ 3-7 วัน
หลังจากนั้นถ้าสังเกตอาการร่างกายไม่มีภาวะไข้อ่อนๆ หรือ เหนื่อย หมดแรง ก็ให้ปรับมาทานเป็น 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนอาหาร 30 นาที อย่างละ 1 เม็ด
ในเซ็ตนี้ถ้าทานครบจะมีตัวชงดื่มอยู่ด้วยที่เป็น มิกซ์ พอลเล่น (Mixed Pollen) ตัวนี้ใช้ชงดื่ม ก่อนนอน น้ำประมาณ 100 – 200 มล. ( หรือจะทาน ทุกมืออาหารก็ได้ เพราะจะช่วยให้ท่านมีกำลังและมีแรงเพิ่มขึ้น)
หลังทานพอลลิตินไปแล้วนั้น ถ้าท่านเองเริ่มมีภาวะตัวร้อนหรือไข้อ่อนๆ อาจใช้ยาลดไข้ร่วมด้วยได้ในช่วงแรก ประมาณ 3 – 7 วันอาหารก็จะเบาลงเป็นปกติ ซึ่งจะเกิดได้กับคนบางคน
และบางคนเกิดภาวะ หมดแรง ไม่มีแรง ช่วงแรกกินไป มีกำลังมีแรงดีมากๆ ผ่านไปวันที่ 2 – 3 อยู่ กลับมาเจอสภาพไม่มีแรงเลย อ่อนเพลียมากๆ ไปทำงานก็ไม่ไหว ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในบางคนเช่นกัน
ตอนนี้ร่างกายท่านกำลังเข้าสู่กระบวนการซ่อมสร้างร่างกาย แนะนำให้พักผ่อน ให้เพียงพอไม่ต้องฝืน นอนพัก หยุดงาน ไปสัก 3 – 7 วัน ร่างกายก็จะกลับฟื้นมาสู่สภาพปกติอีกครั้ง หรือถ้าหมดแรงมากๆ หาน้ำเกลือแร่มาทานร่างกายก็จะสดชื่น มีแรงมากขึ้น
รีวิวมะเร็งเต้านม และอื่นๆ ที่ทานพอลลิติน
คำแนะนำจากโค้ช ผู้เชี่ยวชาญ
เนื่องด้วยพอลลิติน เป็นสารอาหารที่หลากหลาย และดูแลได้หลายระบบ จึงควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญก่อนทาน จะเกิดประโยชน์กับท่านสูงสุด
ของต้องห้ามสำหรับมะเร็งเต้านม
สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม สิ่งที่ต้องห้ามและไม่ควรทานนั้น ง่ายๆ คืออย่างแรก เลี่ยงของที่มัน อะไรก็ตามเป็นของมันทุกชนิดเลี่ยงจะดีที่สุด ถ้าจะทานก็ให้น้อยที่สุด ต่อมาในส่วนของหวาน ลดลงให้มากที่สุดเท่าที่ท่านจะทำได้
เอาเป็นว่า น้ำตาล นม น้ำมัน ไขมัน เครื่องเทศ แป้งขัดขาว ยารักษาโรค เนื้อวัว ไข่ สัตว์ปีก น้ำอัดลม อันไหนอยู่ในนี้เลี่ยงได้เลี่ยง นะครับ
แต่อาหารยังไม่เพียงพอ ท่านเองนั้นจำเป็นต้องมีการพักผ่อนที่ดีและเหมาะสม นอนก่อน 22.00 น. เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมระบบต่างๆ ได้เต็มที่ และอีกอย่าง คือการขับถ่าย ดูแลการขับถ่ายของท่านให้เป็นปกติ
เลือกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ปรับสภาพทางอารมณ์ให้อารมณ์ดีไม่เคลียด ทำจิตใจให้ผ่องใส เพียงเท่านี้ท่านเองก็มีโอกาสต่อสู้กับมะเร็งร้ายได้อย่างแน่นอน
สรุป การดูแลมะเร็งเต้านมด้วยพอลลิติน
- ความรู้สึกแรกหลังตรวจพบมะเร็งทุกคนย่อมมีจิตวิตกและอาจจะสับสนแต่อยากให้นึกเสมอว่า ยังมีอีกหลายคนที่เขายังมีชีวิตที่สมบูรณ์และแข็งแรงต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายด้วยธรรมชาติได้
- มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งอันดับ 1 ของผู้หญิงซึ่งมีปัจจัยหลายสาเหตุ หมั่นตรวจเต้านมด้วยตัวเองถ้าผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ตรวจเพื่อให้ทันต่อการดูแล
- การรักษามะเร็งเต้านมด้วยธรรมชาติบำบัด มีหลักฐานจากแพทย์ดังๆ ทั่วโลกจำนวนมากว่าเราเองนั้น สามารถใช้อาหารเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้กับมะเร็งร้ายได้ และพอลลิติน เป็นสารอาหารที่ครบถ้วนทางโภชนาการ ร่างกายนำไปใช้ได้ทันที
- ใช้พอลลิตินจำนวน 8 ตัวในการดูแลของคุณน้อย ทำให้ร่างกายไม่มีอาการแพ้คีโม เลย
- วิธีทานให้ได้ผล เริ่มทานแต่น้อย เช้า และเย็น อย่างละ 1 เม็ด ก่อนอาหาร 30 นาที ประมาณ 3-7 วัน เมื่อร่างกายปรับสภาพได้เพิ่มมื้อกลางวันไปอีก 1 มื้อ
- ของต้องห้ามมะเร็งเต้านม ง่ายๆ มัน หวาน ของแปรรูป หมักดอง น้ำอัดลม ท่านก็มีโอกาสร่างกายแข็งแรงเพิ่มขึ้นแล้ว