Pollitin (พอลลิติน) สารอาหารสกัดธรรมชาติจากเกสรดอกไม้

พอลลิติน ( pollitin ) คือ สารสกัดธรรมชาติคุณภาพสูง สกัดจากอณูเกสรข้าวไรย์ที่ทะเบียนเป็น “NUTRACEUTICAL” หรือ “โภชนเภสัช สารอาหารบำบัด”

โรงงาน Graminex ได้ทำการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจากการวิจัยละอองเกสรจากข้าวไร ได้พบว่าอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ มากมาย ประกอบด้วยกรดอะมิโนและกรดไขมันไฟโตสเตอรอลโปรตีนวิตามินและแร่ธาตุตามธรรมชาติ มากกว่า 300 ชนิด ซึ่งโรงงานมีที่ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา โและงานวิจัยทางคลีนิควิทยากว่า 140 ฉบับ

ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีอยู่เกือบ 100% สกัดจากอณูเกสรหญ้าไรย์ มีการจำหน่ายไปแล้วกว่า 50 ประเทศ ใน 6 ทวีปทั่วโลก มายาวนานกว่า 50 ปี นักวิจัยชาวสวีเดนได้ทำการศึกษาวิจัยพบว่า สกัดจากอณูเกสรข้าวไรย์ประกอบด้วย สารที่มีความจำเป็นยิ่งยวดในการสร้างชีวิตใหม่ในตระกูลของพืชและยังเป็นพื้นฐานในวัฏจักรห่วงโซ่อาหาร เป็นสเตียรอยด์ธรรมชาติจากพืชชั้นสูง

พอลลิติน ( pollitin ) คืออะไร คลิปนี้มีคำตอบ อัพเดทใหม่ล่าสุด 2022

อย่างที่เราทราบกันแล้วว่า ละออกเกสรดอกไม้สกัดจากข้าวไรย์ คือสารอาหารธรรมชาติที่มีความพิเศษคือเป็นสารอาหารโมเลกุลขนาดเล็ก ระดับไมโครนิวเทรียนท์ ที่ร่างกายสารมารถดูดซึมไปใช้งานได้ทันทีมากกว่า 95% และนำไปใช้ได้มากกว่า 95% ซึ่งเป็นเหตุให้เมื่อทานเข้าไปแล้วร่างกายรู้สึกตอบสนองได้เร็วตั้งแต่แรกทาน

หลายๆ คนอาจสงสัย ว่าส่วนผสมก็มีแค่เกสรดอกไม้ และมีส่วนผสมของวิตามินเพียงเล็กน้อย จะสู้อาหารเสริมอื่นๆ ที่มีส่วนผสมเยอะแยะมากมายได้อย่างไร?

วันนี้ท่านเคยเห็นไหมว่ามีหลายๆ คนที่ทานอาหารเสริมเหล่านั้นที่ส่วนผสมเต็มไปด้วยสารอาหารต่างๆ เขียนข้างกระปุกเต็มไปหมด แต่กลับร่างกายไม่ฟื้นตัวและไม่เห็นผล

ประเด็นคือเรื่องของการดูดซึม คุณอาจจะทานไปปริมาณมาก แต่ร่างกายสามารถดูซึมสารอาหารเหล่านั้นได้เพียงเล็กน้อย และนำไปใช้ได้ เพียงนิดเดียว ซึ่งถ้ามาเทียบกับการทานสารอาหารจากละอองเกสรดอกไม้สกัดในการดูแลสุขภาพ

สารอาหารมีไม่เยอะแต่พอทานไปกลับฟื้นตัวได้อย่างน่าประทับใจ เพราะละอองเกสรดอกไม้สกัด มีตัวนำพาสารอาหารที่เรียกว่า “carrier” เมื่อทานเข้าไปแล้วสารอาหารเหล่านั้นสามารถวิ่งตรงไปยังเซลล์ที่ต้องการใช้และซ่อมแซมร่างกายได้นั่นเอง

ซึ่งอุดมไปด้วยทั้ง วิตามิน แร่ธาตุ เอ็นไซน์ กรดอมิโนที่จำเป็น ที่ทำงานสอดประสานกันได้อย่างลงตัวทำให้กระบวนการทำงานของร่างกายทำงานได้อย่างสมบูรณ์

ซึ่งสารอาหารกลุ่มไมโครนิวเทรียนท์ นั้นร่างกายต้องการเพียงจำนวนเล็กน้อย แต่จำเป็นอย่างยิ่งในกระบวนการทำงานของร่างกาย ซึ่งพอลลิติน มีสารอาหารเหล่านั้นอยู่ที่เหมาะสมกับร่างกายในแต่ละระบบที่ต้องใช้

รับชมรีวิวผู้ใช้ผลิตภัณฑ์พอลลิติน ทั้งหมด

• รีวิวผู้ป่วยมะเร็ง ที่ใช้พอลลิติน
• รีวิวผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาต ที่ใช้พอลลิติน
• รีวิวโรคอื่นๆ ที่ใช้พอลลิติน

พอลลิตินได้ถูกนำเข้าประเทศไทยมายาวนานกว่า 21 ปีแล้ว และผู้ผลิตเองก็ได้มีการวิจัยพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัจจุบันนี้ มีพอลลิตินแบ่งตามชนิดได้ถึง 17 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะเข้าไปบำรุงฟื้นฟูสุขภาพในบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกัน

ของแต่ละระบบร่างกาย จำเป็นอย่างยิ่งถ้าเรามีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ท่านเองจะสามารถเลือกพอลลิติน เพื่อการดูแลสุขภาพได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด แนะนำถ้ายังไม่มั่นใจควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตัวท่านเอง

พอลลิติน ได้ผลิตโดยโรงงาน Graminex ซึ่งได้ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของมลรัฐโอไฮโอซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 6,500 เอเคอร์ และเพาะปลูกภายใต้กระบวนการผลิตที่ปลอดสารเคมีและยาฆ่าแมลง

จึงทำให้เกสรดอกไม้สกัดที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารในทางโภชนาการ และยังได้นำไปใช้ทางเภสัชกรรม ซึ่งมีกระบวนการขั้นตอนการผลิตดังนี้

ขั้นตอนการผลิตพอลลิติน

ส่วนประกอบของเราถูกคิดค้นขึ้นสำหรับวัตถุประสงค์ต่างๆเช่น เพื่อบำรุงรุงสุขภาพให้แข็งแรง ให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์คุณค่าทางโภชนการที่เหมาะสม เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารที่เหมาะสมจะทำให้ ร่างกายเรานั้นปลอดภัยและรอดพ้นจากโรคความเสื่อม ต่างๆ ได้ 

และได้มีศึกษารับการสนับสนุนจากผลการวิจัยทางคลินิกกว่า 100 โครงการ และมาตรฐานระดับโลก จึงทำให้คุณมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย

แน่นอนครับทุกอย่างบนโลกนี้ ถ้าเรารู้จักวิธีการใช้การดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสมย่อมจะเกิดประโยชน์กับเรา แต่ถ้าเราใช้ไม่ถูกต้องโดยไม่มีความเข้าใจก็อาจจะมีโทษกับเราได้  วันนี้ผมจะมาสรุปข้อห้ามและคำเตือนในทุกมิติในการใช้พอลลิตินกัน

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทานพอลลิติน

วันนี้ก่อนที่ทุกท่านจะตัดสินใจซื้อทาน อยากแจ้งให้ทราบตรงนี้ก่อนนะครับว่าพอลลิตินไม่ใช่ยา แต่พอลลิติน (pollitin) คือสารอาหารที่สำคัญที่ร่างกายต้องการไปฟื้นฟูและบำรุงร่างกายกว่า 300 ชนิด แล้วแบบนี้กินไปแล้วคนเป็นโรคหรือป่วยอยู่มันจะช่วยได้ไหม?

ผมอยากให้ทุกคนกลับมาคิดทบทวนก่อนครับว่า สิ่งที่ทุกท่านกำลังเป็นอยู่นั้นโรคนั้นเกิดจากอะไร ซึ่งสิ่งที่เราป่วยนั้นเกิดจากสาเหตุเพียงไม่กี่อย่างคือ

• อุบัติเหตุ
• การติดเชื้อไวรัส เชื้อโรค
• เกิดจากโรคความเสื่อม NCDs

แน่นอนสิ่งที่เราต้องใช้ยาในการรักษาหรือฝีมือแพทย์ การผ่าตัดต่างๆ คือกลุ่มที่ติดเชื้อไวรัส เชื้อโรคต่างๆ เหล่านี้ ซึ่งอาจจะจำเป็นต้องได้รับยาที่เหมาะสม หรือบางคนเกิดอุบัติเหตุก็อาจจะจำเป็นต้องรับการผ่าตัดต่างๆ

อีกกลุ่มโรคหนึ่งคือโรคความเสื่อมซึ่งเกิดจากปัจจัยอายุ  พฤติกรรมการใช้ชีวิต การกิน การนอน การทำงาน และอาหารที่ทาน จนทำให้ป่วยก่อนวัยที่เหมาะสมได้  ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มักไม่มียารักษาโดยตรง มีเพียงการรักษาตามอาการ

สิ่งที่เราจะรักษาโรคเหล่านี้ที่ดีที่สุดได้คือเริ่มไปแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ ที่ทำให้เกิดความเสื่อมได้ คือพฤติกรรม อะไรก็ตามที่ส่งผลดูแลทำให้เราเกิดโรคที่เป็นได้

ควรปรับเปลี่ยนและทำตรงกันข้าม เช่น นอนดึก ก็นอนให้ไวขึ้น กินไม่ระวังก็ดูว่ากินไปแล้วจะส่งผลต่ออาการป่วยหรือไม่ การทำงานที่เครียดจนเกินไป ก็อาจจะลดความกดดันตัวเองลงไปบ้าง เพียงปรับตรงนี้ โอกาสการที่ร่างกายจะฟื้นตัวก็มีมากไปหลายเท่าตัวแล้ว

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วพอลลิตินจะมีบทบาทอะไรในการฟื้นตัว อย่างที่เรารู้ว่าพอลลิตินเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องใช้ไม่ว่าจะเป็น วิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโน เอนไซม์ ไฟโตสเตอรอล และอื่นๆ ที่เมื่อทานไปแล้วร่างกายดูดซึมได้ทันทีและยังมี ตัวนำพาสารอาหารเหล่านั้นให้เซลล์ได้นำไปใช้ได้อย่างเต็มที่

ท่านลองคิดดูสิครับว่า ทุกวันนี้เรากินอาหารเข้าไปแล้วแต่เรากลับไม่ฟื้นตัว หรือพยายามทานอาหารที่มีประโยชน์แต่รางกายก็ยังเหมือนเดิมไม่ดีมากกว่าเดิมเท่าไร สิ่งที่สำคัญมันคือสารอาหารเหล่านั้นเป็นสารอาหารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่

และบางครั้งตัวนำพาของร่างกายทำงานไม่ดีจึงทำให้สารอาหารดูดซึมไปใช้ได้เพียงเล็กน้อย จนทำให้เราเป็นโรคขาดสารอาหารบางตัว และทำให้เราป่วยขึ้นมาได้ บางคนดูดซึมได้แต่ก็นำไปใช้ได้ไม่ได้

และนี่คือเหตุผลที่พอลลิตินมีบทบาทสำคัญในการเข้าไปทดแทนสิ่งที่เรานั้นเองไม่สามารถทานมันเข้าไปในร่างกายแล้วเอาประโยชน์ไปใช้ได้

ที่สำคัญพอลลิติน (pollitin) นั้นมีสารอาหารที่จัดไว้สำหรับดูแลให้เหมาะสมแต่ละระบบต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งปัจจุบันนั้นมีด้วยกันถึง 17 ชนิด จึงมั่นใจได้เลยว่าเราสามารถเลือกทานพอลลิติน (pollitin) ให้เหมาะกับปัญหาสุขภาพได้อย่างตรงจุด

พอลลิติน (pollitin) นั้นจะมี 3 รูปแบบ คือแบบเป็นเม็ด แบบเป็นแคปซูล และแบบชงดื่ม ซึ่งจะมีการทานที่แตกต่างกันตามแต่ละกระปุกด้วยอีกเช่นกัน  แต่สิ่งสำคัญที่จะทานแล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือทานตอนท้องว่าง

เพราะการทำงานของพอลลิติน นั้นเป็นการดูดซึมแบบใช้ตัวนำพา (carrier) จะเป็นการเคลื่อนที่ของสารจากที่ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าไปยังที่ที่มีความเข้มข้นน้อยกว่า การทานตอนท้องว่างจะยิ่งทำให้ ร่างกายดูดซึมและนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างเต็มที่

การทานพื้นฐานของชนิด เม็ด และ แคปซูล นั้น ทาน เช้า และเย็น ก่อนอาหาร 30 นาที ตามด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิปกติ ประมาณ 1 แก้ว เพื่อการดูดซึมที่ดี และเป็นการบำรุงร่างกายเพื่อไม่ให้กลายเป็นโรคความเสื่อม

ทานเพื่อให้มีผลต่อการฟื้นฟูร่างกายอย่างเร่งด่วน ผมแนะนำว่าทานเป็น 3 เวลา เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช้า กลางวัน เย็น ก่อนอาหาร 30 นาที จะดีที่สุด ซึ่งมีการทดสอบวิจัยในเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งทาน 3 เวลา เห็นผลในการฟื้นฟูร่างกายได้เป็นอย่างดี

ซึ่งสิ่งสำคัญคือการทานแต่ละอาการกรณีมีปัญหาสุขภาพแล้ว ควรได้รับคำแนะนำจากทีมผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดกับตัวท่านเอง

พอลลิตินเป็นสารสกัดจากเกสรดอกไม้ที่เป็นผงแล้วมาอัดเม็ดและแคปซูล สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญเลยคือความชื้น จะมีผลให้พอลลิตินเสื่อมสภาพและเป็นเชื้อราได้ สิ่งสำคัญคือไม่ควรเอาถุงกันชื้นที่อยู่ภายในออก และไม่ควรเก็บไว้ในที่ชื้น เช่น ในตู้เย็น

และอีกอย่างนึงคือไม่ควรเก็บไว้ในที่ร้อนจัด หรือตั้งไว้ใกล้ที่ร้อน เพราะจะทำให้สารอาหารสำคัญบางตัวสูญเสียไปได้ วิธีเก็บที่ดีที่สุดคือเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องปกติ หรือในพื้นที่ไม่ร้อนนั่นเอง

สิ่งที่คุณอาจกำลังต้องการคำตอบ

สรุปข้อมูลพอลลิติน (pollitin)

• พอลลิตินมีประโยชน์ทางโภชนาการสูงมาก และเป็นสารอาหารที่ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที
• มีผู้ใช้พอลลิตินจำนวนมาก เนื่องด้วย ผ่านการจำหน่ายมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ
• พอลลิตินผลิตโดยโรงงาน Graminex ซึ่งได้ผ่านมาตรฐานระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น cGMP NSF GLP QAI  และอื่นๆ
• กระบวนการและขั้นตอนการผลิตทุกขั้นตอนถูกกระทำโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญภายใต้มาตรฐาน cGMP จึงมั่นใจในความปลอดภัย
• ก่อนทานพอลลิตินควรศึกษาข้อมูลข้อห้ามและคำเตือนเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ตามมาได้
• ทุกคนสามารถทานพอลลิตินได้ตั้งแต่ยังไม่ป่วย และผู้ที่ป่วยแล้วในโรคความเสื่อมหรือเซลล์เสื่อมสามารถทานได้ทุกคน
• วิธีการทาน ทานเช้า เย็น ก่อนอาหาร อย่างน้อย 30 นาที ดื่มน้ำตามประมาณ 1 แก้ว ควรได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เหมาะสมกับร่างกายและปัญหาสุขภาพ
• การเก็บรักษาพอลลิติน ควรเก็บไว้ในที่อุณหภูมิห้องปกติ ไม่ร้อน และไม่เก็บในที่ชื้น